Thursday, March 26, 2015

..ตำราของอาริสโตเติ้ล



Feast day

   บอร์ส และ เบลโอเบรีสกำลังหมอบเหนือกองไฟลุกโพลง เหมืนในภาพวาด..
                *แต่ทำไมพวกเขาไปกันเร็วนักเล่า* บอร์สถามอย่างมีข้อกังขา
                *ข้าไม่เคยเห็นกองทัพที่ไหนยกกำลังมาล้อมเมืองไว้แต่ก็ยกทัพกลับอย่างรวดเร็วขนาดนั้น โดยที่พวกเขารื้อถอนค่ายไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืนหายไปหมดเหมือนถูกลมหอบไป*
*คงจะได้ข่าวร้าย  คงจะต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลในอังกฤษเกิดขึ้นก็เป็นได้*
*ถ้าพวกเขาต้องการยกโทษให้ลานสล๊อตก็คงส่งสาสน์มาแล้ว*
                *ดูแปลกอยู่หรอกโดยกลับไปปุบปับโดยไม่บอกกล่าว*
                *เจ้าคิดว่าอาจเกิดกบฏขึ้นใน คอร์นวอลล์ หรือเปล่า หรือในเวลล์หรือบางทีในไอร์แลนด์*
                *มีพวกบรรพชนอยู่นี่นา*  เบลโอเบรีสเห็นพ้องออกอาการมึนงง
                *ข้าไม่คิดว่าเป็นเรื่องกบฏนะ ข้าคิดว่าพระราชาทรงประชวร และต้องอัญเชิญกลับโดยด่วน หรือไม่การเวกต้องป่วยหนัก ที่โดนลานสล๊อตฟาดด้วยโล่ ให้เป็นกำนัลถึงสองครั้ง อาจจะโดนที่ศิรษะของเขาอย่างจัง*
                *ก็เป็นได้*
                บอร์สเคาะไฟแรงๆ *จากไปแบบนั้น แล้วก็ไม่พูดอะไรสักคำ*
                *ทำไมลานสล๊อตไม่ทำอะไรบ้างละ*
                *จะให้เขาทำอะไรได้*
                *ไม่รู้สิ*
                *พระเจ้าอยู่หัวขับเขาออกจากประเทศนี่*
                *ใช่*
                *ง้นก็ไม่มีอะไรให้ทำเลย*
                *ถึงอย่างไร* เบลโอเบริส กล่าว *ข้าก็หวังว่าเขาจะทำอะไรบ้าง*
                ประตูที่ตีนบันไดเปิดออกพร้อมด้วยเสียงย่ำบันไดเวียนลงมาจากหอคอยเล็ก พรมทำด้วยต้นกกตั้งตรงขึ้น ควันพวยพุ่งจากกองไฟในเตา และเสียงของลานสล๊อตดังรอดเสียงลมลั่น  *บอร์ส เบลโอริส เดมาริส*
                *อยู่ตรงนี้*
                *ตรงไหน*
                **บนนี้
ได้ยินเสียงประตูปิดดังมาไกลๆ  ความเงียบกลับเข้ามาในห้อง  เสื่อทอต้นกกล้มลงพื้นกลับเข้าที่เดิม และเสียงฝีเท้าของลานสล๊อตดังชัดเจนขึ้นสะท้อนก้องตามขั้นบันใดหิน ทั้งๆที่เมื่อสักครู่เสียงตะโกนของเขาฟังแทบไม่ออก เขาเข้ามาอย่างรีบร้อนมือถือจดหมาย ลั่นเสียงกระแอมไอ  *บอร์ส เบลโอริส เดมาริส*
*ข้าตามหาเจ้าอยู่*
                *มีจดหมายมาจากอังกฤษ* พวกเขายืนขึ้น
*นกส่งสารถูกพัดขึ้นฝั่ง ไกลจากชายฝั่งที่นี่ขึ้นไปห้าไมล์*
                *เราต้องออกเดินทางทันทีเลย*
                *”ปอังกฤษหรือ*
*ใช่*
                *ฬว่ ไปอังกฤษซิ  ข้าได้บอกไลน์โอแนล ให้จัดการเรื่องพาหนะแล้ว และข้าต้องการให้เจ้า บอล์ส จัดการเรื่องเสบียงนะ*
                *เราต้องรอให้กำลังลมอ่อนตัวลงก่อน*
                *เราจะไปทำไมหรือ* บอล์สถาม *ท่านต้องบอกเราว่ามีข่าวอะไร*
*ข่วหรือ*
                *ข่าหรือ* เขาพูดตะกุกตะกักสุ้มเสียงคลุมเครือ
                *ยังไม่มีเวลาสำหรับช่าวหรอก ข้าจะเล่าให้ฟังในเรือ เอ้า อ่านจดหมายนี่ก่อน*
                เขายื่นจดหมายให้บอล์ส แล้วออกไปก่อนที่พวกเขาจะทันตอบ *ว่าไง*
                *อ่านสิ*
                *ข้าไม่รู้ว่าใครเขียนมาด้วยซ้ำ*
*อ่านไปก็คงรู้เองน่า*           
                ลานสล๊อตกลับเข้ามาก่อนที่พวกเขาจะอ่านได้ไปไกลกว่าวันที่
                *เบลโอโบริส*เขาบอก *ข้าลืมไป ข้าต้องการให้เจ้าดูแลเรื่องม้า เอาจดหมายมาก่อน ถ้าเจ้าสองคนค่อยๆสะกดละก็ เจ้าต้องอ่านอยู่ทั้งคืนแน่*
                *เขียนมาว่าอย่างไรละ*
*ข่าวนี้มาจากนกสื่สาร ดูเหมือนว่า มอร์เดร๊ดเป็นกบฏต่อพระเจ้าอาณ์เธอร์ ประกาศตนเป็นประมุขแห่งอังกฤษ และเขาได้ขอให้ วอนีเวียร์ แต่งงานกับเขา*
                *แต่นางแต่งงานแล้วนี่* เบลโอเบรีสท้วง
                *นั่นเป็นสาเหตูที่พวกนั้นเลิกปิดล้อมพวกเราไง*
                *แล้วดูเหมือนว่ามอร์เดร้ดยกทัพไปรวมที่เค็นต์ เพื่อขัดขวางไม่ให้พระเจ้าอยู่หัวขึ้นฝั่ง*
*เขาประกาศไปว่าพระเจ้าอาร์เธอร์ทรงสวรรคตแล้ว*
*เขากำลังล้อมจับพระราชินีโดยระดมยิงปืนใหญ่ไปที่หอคอยแห่งลอนดอน*
*ปืนใหญ่*
*ใช่ เขามารอพบอาร์เธอร์ที่โดเวอร์ และทำการสู้รบเพื่อมิให้พระองค์ขึ้นฝั่ง สู้กันทั้งบนบกและในน้ำ แต่พระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นฝั่งได้ รอวันประกาศชัยชนะ*
*ใครส่งจดหมายมา*
ลานสลอ๊ตทรุดตัวลงนั่งทันที *มาจาก ขุนพลการเวก*
*การเวกที่น่าสงสาร เขาตายแล้ว*
เบลโอเบริสตั้งกระทู้ *ตายแล้วเขียนได้อย่างไร*
*สารนั้นอ่านแล้วน่าสลดใจเหลือเกิน*
*การเวกเป็นคนดี พวกเจ้าทุกคนที่บังคับให้ข้าสู้กับเขา โดยไม่ได้เห็นแก่จิตใจที่งดงามของเขา*
                *อ่าซิ* ฮอร์สบอกกล่าวอย่างร้อนใจ
*ดูเหมือนว่าแผลที่ข้าฟาดหัวเขามันฉกรรจ์มาก เขาไม่ควรจะรีบเดินทางไปหรอก แต่เขาว้าเหว่ทุกข์ทรมานและถูกหักหลัง* น้องชายคนเล้กกลายเป็นคนทรยศ เขายากรานจะกลับไปช่วยพระเจ้าอยู่หัว ในศึกตอนขึ้นฝั่ง เขาพยายามจะสู้ เคราะห์ร้ายเขาถูกตีซ้ำตรงลอยแผลเก่า และเสียชีวิตในอีกสองสามชั่วโมง ต่อมา
*ข้าไม่เห็นว่าทำไมเจ้าถึงต้องเดือดร้อนขนาดนี้*
*ฟังจดหมายนี่สิ*
*ลานสลอ๊ต ถือจดหมายไปที่หน้าต่างและเงียบลง ขณะที่พินิจดูจดหมาย มีอะไรที่หน้าตื้นตันอยู่ในนั้น*
*แต่เซอร์ลานสล๊อต ยอดอัศวินผู้สูงส่งโดยที่ข้าได้ประจักษในชีวิตของข้า ข้า-เซอร์การเวก อัศวินโต๊ะกลมโอรสของพระเจ้า ล๊อต แห่งอ๊อกนีย์ บุตรแห่งพระเชษฐ์ภคินีแห่งพระเจ้าอยู่หัวอาณ์เธอร์ผู้ประเสริฐ ขอแสดงความเคารพมายังท่าน*
*และข้าขอให้โลกทั้งโลกตระหนักว่า ข้าเซอร์การเวก ขอตายด้วยน้ำมือของท่าน และมิใช่ด้วยเจตนาของท่าน  แต่เป็นเจตจำนงของข้าเอง  ข้าขอวิงวอนให้ท่าน เซอร์ลานสล๊อต กลับสู่ราชอาณาจักรแห่งนี้อีกครั้ง เพื่อมาเยี่ยมหลุมศพของข้า และสวดภาวนาให้แก่หลุมศพที่ข้านอนรอคอยท่านอยู่โปรดภาวนาให้แก่ดวงวิญญาณของข้าด้วยข และวันนี้ที่ข้าเขียนสาสน์ฉบับนี้  ข้าบาดเจ็บถึงฆาตด้วยบาดแผลที่มาจากน้ำมือท่าน เซอร์ลานสล๊อต ด้วยข้าพอใจที่จะไม่ถูกสังหารด้วยบุคคลผู้ประเสริฐไปกว่านี้อีกแล้ว.
                *นอกจากนั้น เซอร์ลานสล๊อต เพื่อความรักที่มีอยู่ระหว่างเรา....*
                ลานสล๊อต หยุดอ่านและโยนสาสน์ลงบนโต๊ะ   *เอา*  เขาบอก *ข้าอ่านต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาขอให้ข้ารีบเดินทางไปเพื่อช่วยพระเจ้าอยู่หัวต่อสู้กับน้องชายของเขาและญาติคนสุดท้ายของเขา การเวกรักญาติของเขามากนะ บอร์ และท้ายที่สุดเขาก็ไม่เหลือใครเลย  แต่เขายังเขียนมายกโทษให้ข้า เขาบอกด้วยซ้ำว่าเป็นความผิดของเขาเอง พระเจ้าทรงทราบว่าเขาเป็นพี่ชายที่ดีเหลือเกิน*
*แล้วเราจะทำอย่างไรเรื่องพระเจ้าอยู่หัว*ฃ*เราต้องไปอังกฤษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มอร์เด็รดถอยทัพไปที่แกรนเบอรี่แล้ว  เขากำลังจะออกศึกครั้งใหม่ที่นั่น  ตอนนี้มันอาจจะจบลงแล้วก็ได้  ข่าวนี้มาถึงล่าช้าเพราะติดพายุ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเร็วแล้ว*
/เบลโอเบริสบอกว่า *ข้าจะไปดูเรื่องม้า  เราจะออกเรือกันเมื่อไหร่*
                *พรุ่งนี้ คืนนี้ เดี๋ยวนี้เลย เมื่อลมซาลง เร็วเข้าเถิด*
                *แล้วเจ้านะบอร์ส เรื่องเสบียง*
                *ตกลง*
                บอร์สซึ่งเหลืออยู่คนเดียวกับลมพายุ หยิบจดหมายขึ้นมาอย่างกระหายไคร่รู้ เขาตะแคงจดหมายลงรับแสงไฟทีเริ่มจะอ่อน เขาสะกดตอนท้ายจดหมาย ปากขยับอ่านคำ
                *และวันที่ข้าเขียนจดหมายฉบับนี้ เพียงสองชั่วโมงครึ่งก่อนความตายมาถึง เขียนด้วยลายมือของข้าเอง และจารึกนามไว้ด้วยเลือดจากหัวใจข้า
การเวกแห่งอ๊อกนีย์*

สงคราม......พวกเขาเอาแต่พูดว่า...*สงครามครั้งนี้จะเป๊นสงครามครั้งสุดท้าย* และหลังจากนั้นโลกก็จะเป็นสรวงสวรรค์ พวกเขาเอาแต่จะสร้างดฃกใหม่ขนิดที่ไม่เคยมีใตรพานพบมาก่อน  ครั้นเมื่อเวลามาถึง พวกเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เหมือนเด็กสร้างบ้าน พวกเขาไม่รู้วิธีจะเลือกวัสดุที่เหมาะสม

            ความคิดของบุรุษสร้างชาติดำเนินไปด้วยความยากลำบาก ไม่ได้ไปถึงไหนเลย แล้วก็ย้อนกลับมาทางเดิม แล้วก็แล่นไปทางเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่จะก้าวเข้าไปสู่ห้วงความคิดอีกวงหนึ่ง พระองค์จะหยุดคิดเรื่องนี้เสียไม่ได้ กษัตริย์อาร์เธอร์ทรงเหนื่อยล้าอ่อนระโหย พระองค์สิ้นแรงจากศึกสองครั้ง ครั้งแรกที่ช่องแคบโดเวอร์ ครั้งที่สองที่บาร์รอมดาวน์ พระมเหสีกำลังตกเป็นนักโทษอยู่ที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอล พระสหายเก่าแก่ของพระอง๕ถูกขับออกจากแผ่นดิน  พระราชโอรสพยายามจะปลงพระชนม์พระองค์ อัศวินการเวกถูกฝังไปแล้ว  อัศวินโต๊ะกลมแตกกระจายหายสูญไปทั้งโต๊ะ  ประเทศตกอยู่ในสงคราม โดยทางใดทางหนึ่งพระองค์จะต้องทนทานแบกรับสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้ได้ด้วยหลักยึดในจิตใจ  นานมาแล้วที่พระอง๕ได้รับการสั่งสอนจากผู้เฒ่าเมอร์ลินโดยเชื่อว่า มนุษย์นั้นจะปฎิรูปให้เป็นคนสมบูรณ์แบบได้ โดยรวมแล้วมีคุณธรรมมากกว่าความป่าเถื่อนเยี่ยงเดรฉาน สิ่งทีเรียกว่าบาปดั้งเดิมไม่มีตัวตน พระอง๕ในฐานะกษัตริย์ได้รับการหล่อหลอมให้เป็นผู้ช่วยเหลือมนุษย์ คูณูประการที่พระองค์ถูกลิขิตมาคือการต่อสู้กับอำนาจ...ซึ่งเกิดจากการมีอคติด้วยจิตใจที่เจ็บป่วยของมนุษย์ พระราชดำริเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมอัศวินโต๊ะกลมของพระองค์ พระองค์เปรียบเสมือนผู้วิเศษที่มุ่งหมายจะติดตามผลการวิจัยมะเร็งร้ายตลอดพระชนม์ชีพ อำนาจเพื่อยุติมันลงและทำให้มนุษย์ชาติมีความสุขขึ้น  แต่โครงสร้างทั้งหมดมีสัมพันธ์กับสมมุติฐานอันแรกว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ประเสริฐดีงามเยียงเสือโคร่งที่ถูมนุษย์เลี้ยงมาแต่กำเนิดให้เป็นสัตวืประเสริฐ
            เมื่อมองย้อนกลับมาในพระชนม์ชีพ ดูเหมือนว่าพระองค์ทรงดันรนมาตลอดเพื่อจะสร้างเขื่อนโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันอุทกภัย ซึ่งตรวจพบรอยแตกร้าวอยู่เสมอๆ ทำให้ต้องมีงานใหม่ทำอีกเรื่อยๆ  เหมือนกระสน้ำเมื่อท่วมจากที่สูงก็ย่อมไหลต่อไปยังที่ต่ำ ครั้นพระองค์ทรงอภิเษกสมรส พระองค์ทรงใช้พละกำลังในการสู้รบกับพวกชาวเกล เพียงเพื่อสอนพระอง๕เองว่าการทำผิดสองครั้งผลลัพธ้จะไม่ได้เป็นถูกหนึ่งครั้ง แต่ด้วยอัศวินตกกลมของพระอง๕จนสามารถสยบความแบ่งแยกอันก็ให้เกิดสงครามศักดินาสวามิภักดิ์ได้สำเร็จ และทรงพยายามควบคุมทรราชในรูปแบบย่อยโดยนำอำนาจของทรราชมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อจัดการกับความชั่วร้ายพระองค์ทรงให้อัศวินของพระองค์ไปจัดการปราบอิทธืพลของเหล่าบารอนและบารอนเนสเหล่านั้น จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไปก็ได้บรรลุจุดหมายแล้ว พวกเขาทำตามคำบัญชาของพระองค์ แต่พลังอำนาจของพระองค์ที่มีอยู่เกิดปฎิกริยาลุกโซ่จนนอกเหนือการควบคุม ดังนั้นพระอง๕จึงต้องแสวงหาช่องทางใหม่ โดยส่งพวกเขาอัศวินเหล่านั้นไปปฎิบัติภารกิจของพระเจ้าเพื่อแสวงหาจอกศักดิ์สิทธิ์ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่เป็นนามธรรมเพราะพวกอัศวินบ้างก็ล้มเหลวและบ้างก็สำเร็จอรหันต์และปล่อยวางโดยหลุดพันไปจากโลก...